วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

สัปดาห์ที่ 6 บทความเรื่อง ความสุขของชีวิต (เนื้อหาจากหนังสือ9คำพ่อสอน p.1-26)

บทความเรื่อง ความสุขของชีวิต
__________การดำเนินชีวิตของคนเราในปัจจุบัน ล้วนแล้วแต่มีการแก่งแย่งแข่งขันกันมากมายในหลายๆด้าน เพื่อตอบสนองความต้องการของตน ซึ่งแต่ละคนก็มีชีวิตที่แตกต่าง มีสังคมที่แตกต่างกัน ทุกคนเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้ บางคนตั้งเป้าหมายให้กับตัวเอง วางแผนให้กับชีวิต และบางคนเลือกที่จะดำเนินชีวิตไปวันๆ โดยที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย สำหรับคนที่มีเป้าหมายในชีวิตแล้วบางคน ก็ยังตอบคำถามของตัวเองไม่ได้ว่า เป้าหมายชีวิตที่ตัวเองตั้งไว้ จะเป็นความสุขที่เราต้องการจริงๆหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นถ้าทำไปแล้ว จะเกิดความเบื่อหน่าย และท้อใจกับสิ่งที่ทำลงไป ก็ทำให้งานนั้นไม่ประสบความสำเร็จ เกิดความสับสนในชีวิตอีกครั้ง ทำให้ต้องมาเริ่มต้นเรียนรู้กับสิ่งใหม่ๆ ซึ่งการจะทำอะไรสักอย่างมันก็ต้องใช้เวลาอาจทำให้บางคนถึงกับถอดใจ ไม่อยากจะตั้งเป้าหมายให้กับชีวิตไปเลยก็ได้
__________ทุกคนเกิดมาก็มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นด้านการงาน หรือการเรียน เมื่อมีหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย แน่นอนว่าเราก็จะต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจและมีเป้าหมายที่แน่ชัดเพื่อทำหน้าที่ของเราให้สำเร็จ จนบางครั้งลืมที่จะฝึกจิต ฝึกกายของตนให้ดีอยู่เสมอ ทำให้เรามีจิตใจที่ร้อนรน ร่างกายโทรม งานสำเร็จ แต่ไม่เป็นสุข ซึ่งส่วนหนึ่งในพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเน้นเรื่อง สุขภาพจิตและสุขภาพกาย ทั้งสองทางนี้มีความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกัน สุขภาพกายดี คือ มีร่างกายที่แข็งแรง รวมทั้งมีความคิดที่ดี และสุขภาพจิตดี คือ มีกำลัง ทั้งสองทางนี้ถ้าใช้ส่งเสริมกัน ก็จะนำพาบุคคลนั้นคิดในสิ่งที่ถูกต้อง เกิดความเจริญรุ่งเรืองแก่ตนและสังคม ในการดำเนินชีวิตประจำวันเราสามารถฝึกร่างกายได้ง่ายๆโดยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ทำงานหนักจนเกินไป เหนื่อยก็พักบ้าง และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะร่างกายของเราธรรมชาติสร้างมาให้ออกแรง ไม่ใช่ให้อยู่เฉยๆ ดังนั้น ผู้ที่ทำงานโดยใช้กำลังน้อย ควรหาเวลาออกกำลังกายให้เพียงพออย่างสม่ำเสมอ สิ่งต่างๆเหล่านี้ถ้าเราทำได้ก็จะทำให้เรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง เมื่อเราฝึกกายแล้ว ก็ต้องฝึกใจควบคู่ไปด้วย เพราะกายดี จิตดี จะทำการสิ่งใดการสิ่งใดก็จะสำเร็จ ทุกคนก็มีความปรารถนาที่จะมีความสุข ต้องการที่จะมีความรู้ ความสามารถ เราสามารถฝึกจิตใจได้โดยการทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใส มีสติอยู่เสมอ รู้จักควบคุมอารมณ์ รู้จักให้อภัย ฝึกใจไม่ให้ขี้เกียจในการทำงาน ให้คิดว่าถ้าทำงานอย่างนั้นแล้วจะเกิดผลดี เมื่อฝึกได้ก็ทำให้ร่างกายและจิตใจแข็งแรงไปพร้อมกัน อีกปัจจัยหนึ่งที่จะเพิ่มความสมบูรณ์ให้กับร่างกายและจิตใจ ก็คือ กีฬา การเล่นกีฬาก็มีจุดประสงค์พื้นฐานที่จะส่งเสริมร่างกายให้แข็งแรง และสามารถกล่อมเกลาจิตใจให้เป็นคนมีความสามัคคี มีน้ำใจนักกีฬา อดทน รู้แพ้รู้ชนะ รู้จักการให้อภัย มีการเข้าสังคม และยังให้ความสนุกสนานด้วย โดยเฉพาะกีฬาฟุตบอลเป็นกีฬาที่คนไทยสามารถเล่นได้ดี เพราะคนไทยมีความว่องไวและอดทน แต่การที่จะเล่นได้ดีหรือไม่นั้น ก็ต้องมาจากทักษะทางวิชาการ คือเทคนิค และทางกาย คือสุขภาพนามัยแข็งแรง ที่จะต้องฝึกฝนอยู่สม่ำเสมอด้วยเช่นกัน ถ้าคนเรามีสุขภาพกายที่แข็งแรงและสุขภาพใจที่ดี รวมทั้งให้ความสำคัญกับการเล่นกีฬา เพราะผลของกีฬา คือ ผลทางร่างกายและจิตใจ ก็จะทำให้การดำเนินชีวิตที่จะต้องวางแผนกำหนดเป้าหมายของตัวเองเป็นไปได้อย่างราบรื่น และสามารถหาความสุขที่แท้จริงของชีวิตตัวเองได้
__________การดำเนินชีวิตเพื่อให้ไปสู่หนทางแห่งความสุขที่แท้จริงนั้น ก็ยังเป็นคำถามที่ยังหาคำตอบได้ยากสำหรับบางคนที่ยังไม่เข้าใจชีวิต แต่ถ้าบุคคลใดทำความเข้าใจและได้ปฏิบัติตามพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในเรื่องของสุขภาพกาย และสุขภาพใจ ก็จะสามารถปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิตให้ดีขึ้นได้อย่างไม่เป็นอุปสรรค และพร้อมที่จะก้าวไปสู่อนาคตของตนที่คิดว่าเป็นความสุขของชีวิต
นางสาว ชนาภา ตรีวรรณกุล รหัส 52040229 คณะศึกษาศาสตร์ เอกการสอนภาษาอังกฤษ

1 ความคิดเห็น:

  1. แหม ๆ บทความhiso ลึกซึ้งกินใจมากมาย
    นอนได้แล้ว ดึกแล้วจ้า

    ตอบลบ